ประมวลทฤษฎีการเรียนรู้ที่เป็นสากลและการประยุกต์สู่การสอน
1. ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 และการประยุกต์สู่การสอน
1.1 ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง ( Mental Discipline)
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถให้พัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดแยกออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
1.1.1 กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้ คือ เซนต์ออกุสติน(St.Augustine) จอห์น คาลวิน(John Calvin) และคริสเตียนโวล์ฟ(Christian Wolff) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ ดังนี้
ก. ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว
2.มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
3.สมองของมนุษย์นั่นแบ่งออกเป็นส่วนๆ
4.การฝึกสมองหรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็น
5.การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด
ข.หลักการจัดการศึกษาการสอน
1.การฝึกสมองหรือการฝึกระเบียบของจิตอย่างเข้มงวด
2.การฝึกจิตจะต้องทำอย่างเข้มงวด
3.การจัดให้ผู้เรียนได้เรียนเนื้อหาวิชาที่ยาก
4.การจัดให้ผู้เรียนได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและยึดถือในพระเจ้า
1.1.2 ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุผลของมนุษย์ นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ พลาโต(Plato)และอริสโตเติล(Aristotle)
ก. ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.พัฒนาการในเร่องต่างๆ
2.มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลว
3.มนุษย์เป็นผู้ที่มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
4.มนุษย์มีความรู้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ข.หลักการจัดการศึกษาการสอน
1.การพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
2.การพัฒนาให้ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องใช้การบังคับ
3.การใชวิธีสอนแบบโสเครตีส
4.การใชวิธีสอนแบบบรรยาย
1.2 ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment)
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ รุสโซ(Rousseau) ฟรอเบล(Froebel)และเพสตาลอสซี(Pestalozzi) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ ดังนี้
ก. ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดี
2.ธรรมชาติของมนุษย์มีการกระตือรือร้น
3.รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ
4.รุสโซมีความเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญ
5.เพสตาลอสซี มีความเชื่อว่า คนมีธรรมชาติปนกัน 3 ลักษณะ คือ คนสัตว์ คนสังคม และคนธรรม
6.เพสตาลอสซี เชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
7.ฟรอเบล เชื่อว่า ควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็ก อายุ 3-5 ขวบ
8.ฟรอเบล เชื่อว่าการเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
ข.หลักการจัดการศึกษาการสอน
1.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่
2.การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
3.การจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ
4.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
1.3 ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด ( Apperception หรือ Herbartianism )
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ จอห์น ล็อค (John Locke) วิลเฮล์ม วุนด์(Wilhelm Wundt) ทิชเชเนอร์(Titchener) และแฮร์บาร์ต(Herbart) ซึ่งมีความเชื่อดังนี้
ก. ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.มนุษย์เกิดมาไม่มีทั้งความดีความเลวในตัวเอง
2.จอห์น ล็อค เชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับจิตหรรือสมองที่ว่างเปล่า
3.วุนด์เชื่อว่าจิตมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือการสัมผัสทั้ง 5 และการรู้สึก
4.ทิชเชเนอร์มีความเห็นเช่นเดียวกับวุนด์ แต่ได้เพิ่มส่วนประกอบของจิตอีก 1 ส่วน
5.แฮร์บาร์ต เชื่อว่า การเรียนรู้มี 3 ระดับ
6.แฮร์บาร์ต เชื่อว่าการสอนควรเริ่มจากการทบทวนความรู้เดิม
ข.หลักการจัดการศึกษาการสอน
1.การจัดให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นสิ่งจำเป็น
2.การช่ยให้ผ้เรียนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้อย่างดี
3.การสอนโดยดำเนินการตาม 5 ขั้นตอนของแฮร์บาร์ต จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีและรวดเร็ว
2.ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 และการประยุกต์สู่การสอน
2.1 ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม ( Behaviorism)
2.1.1ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดด์
นักทฤษฎีคนสำคัญคือธอร์นไดด์
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้
1.กฏแห่งความพร้อม
2.กฏแห่งการฝึกหัด
3.กฏแห่งการใช้
4.กฏแห่งผลที่พึงพอใจ
ข.หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนแบบลองผิดลองถูก
2.การสำรวจความพร้อมของผู้เรียน
3.หากต้องการให้ผู้เรียนมีทักษะเรื่องใดจะต้องช่วยให้เขาเกิดความเข้าใจในเรื่องนั้นก่อน
4.เมื่อผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แล้วควรให้ผู้เรียนฝึกนำการเรียนรู้นั้นไปใช้บ่อยๆ
5.การให้ผู้เรียนได้รับผลที่ตนพึงพอใจ จะช่วยให้การเรียนการสอนประสบผลสำเร็จ
2.1.2ทฤษฎีการวางเงื่อนไข
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้
1.พฤติกรรมการตอบสนองของมนุษย์เกิดจากการวางเงื่อนไข
2.พฤติกรรมการตอบสนองของมนุษย์สามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งเร้า
3.การนำเรื่องที่เคยสอนไปแล้วมาสอนใหม่สามารถช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามที่ต้องการได้
4.การจัดกิจกรรมการเรียนให้ต่อเนื่องและมีลักษณะคล้ายคลึงกัน
5.การเสนอสิ่งเร้าให้ชัดเจนในการสอน
6.หากต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมใด ควรมีการใช้สิ่งเร้าหลายแบบ
ข.หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.ในการสร้างพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดขึ้นในผู้เรียนควรพิจารณาสิ่งจูงใจหรือสิ่งเร้าที่เหมาะสมกับภูมิหลัง
2.การลบพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทำได้โดยการหาสิ่งเร้าตามธรรมชาติที่ไม่ได้วางเงื่อนไขมาช่วย
ทฤษฏีการเรียนรูของฮัลล์
ฮัลล์ ได้ทำการทดลอง โดยฝึกหนูให้กดคาน โดยแบ่งหนูออกเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มอดอาหาร 24 ชั่วโมง และแต่ละกลุ่มมีแบบแผนในการเสริมแรงแบบตายตัวต่างกัน บางกลุ่มกดคาน 5 ครั้งจึงได้อาหารไปจนถึงกลุ่มที่กด 90 ครั้งจะได้อาหารและอีกพวกหนึ่งทดลองแบบเดียวกัน แต่อดอาหารเพียง 3 ชั่วโมง ผลปรากฏว่ายิ่งอดอาหารมาก คือมีแรงขับมาก จะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเข้มของนิสัย กล่าวคือจะทำให้การเชื่อมโยงระหว่างอวัยวะรับสัมผัส กับอวัยวะแสดงออกเข้มแข็งขึ้น ดังนั้นเมื่อหนูหิวมาก จึงมีพฤติกรรมกดคานเร็วขึ้น
ทฤษฏีการเรียนรู้
1. กฎแห่งสมรรถภาพในการตอบสนอง
2. กฎแห่งการลำดับกลุ่มนิสัย
3. กฎแห่งการใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมาย
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. ในการจัดการเรียนการสอนควรคำนึงถึงความพร้อมความสามารถและเวลาที่ผู้เรียนสามารถเรียนได้ดีที่สุด
2. ผู้เรียนมีระดับของการแสดงออกไม่เท่ากันในการเรียนการสอน ควนให้ทางเลือกที่หลากหลาย
3. การให้การเสริมแรง จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
ทฤษฏีการเรียนรู้ของกลุ่มพุทธินิยม
กลุ่มที่เน้นกระบวนการทางปัญญาหรือความคิด นักคิดกลุ่มนี้ เริ่มขยายขอบเขตของความคิดที่เน้นทางด้านพฤติกรรมออกไปสู่กระบวนการทางความคิด โดยเชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องพฤติกรรมที่เกิดจากกระบวนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเพียงเท่านั้น แต่กระบวนการเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคิดที่เกิดจากการสะสมข้อมูล การสร้างความหมาย และความสัมพันธ์ของข้อมูล และการดึงข้อมูลออกมาใช้ในการกระทำและการแก้ปัญหาต่างๆ
ทฤษฏีกลุ่มนี้ที่สำคัญ
1. ทฤษฏีเกสตัลท์
2. ทฤษฏีสนาม
3. ทฤษฏีเครื่องหมาย
4. ทฤษฏีพัฒนาการทางสติปัญญา
5. ทฤษฏีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
ทฤษฏีเกสตัลท์
เกสตัลท์ เป็นคำศัพท์ในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า แบบแผนหรือรูปร่าง ซึ่งในความหมายของทฤษฏี หมายถึงส่วนรวม
ทฤษฏีการเรียนรู้
1. การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคิด
2. บุคคลจะเรียนรู้จากสิ่งเร้าที่เป็นส่วนรวมได้ดีกว่าส่วนย่อย
3. การเรียนรู้เกิดขึ้นได้สองลักษณะ คือ การรับรู้ การหยั่งเห็น
4. กฎการจัดระเบียบการรับรู้ ทฤษฏีเกสตัลท์ มีดังนี้
4.1 กฎการรับรู้ส่วนรวมและส่วนย่อย
4.2 กฎแห่งความคล้ายคลึง
4.3 กฎแห่งความใกล้เคียง
4.4 กฎแห่งความสมบูรณ์
4.5 กฎแห่งความต่อเนื่อง
4.6 บุคลจะมักมีความคงที่กับความหมายของสิ่งที่รับรู้ ตามความเป็นจริงกล่าวคือ เมื่อบุคคลรับรู้สิ่งเร้าในภาครวมแล้วจะมีความคงที่ในการรับรู้สิ่งนั้นในลักษณะภาพรวมดังกล่าว
5. การรับรู้แบบหยั่งเห็น
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. การส่งเสริมกระบวนการคิด
2. การสอนภาพรวมให้ผู้เรียนเห็นและเข้าใจก่อนการเสนอส่วนย่อยจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
3. การส่งเสริมให้ผู้เรียนมีประสบการณ์มาก ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย
4. การจัดประสบการณ์ใหม่
5. การจัดระเบียบสิ่งเร้าที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีคือการจัดกลุ่มสิ่งเร้าที่เหมือนกัน
6. ครูไม่จำเป็นต้องเสียเวลานำเสนอเนื้อหาทั้งหมด ครูสามารถเสนอเนื้อหาบางส่วน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ประสบการณ์เดิมมาเติมให้สมบูรณ์
7. การเสนอเนื้อหาหรือบทเรียนควรจัดให้มีความต่อเนื่องกัน
8. การส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย
ทฤษฎีสนาม
เคิร์ท เลวิน (Kurt Lewin) เป็นผู้เริ่มทฤษฎีนี้ คำว่า Field มาจากแนวคิดเรื่อง Field of forece
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. พฤติกรรมของคนมีพลังและทิศทาง
2. การเรียนรู้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลมีแรงจูงใจหรือแรงขับ
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.การให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
2. การจัดการเรียนรู้ให้ไปอยู่ในโลกของผู้เรียน โดยการจัดสิ่งแวดล้อมทั้งกายภาพและจิตวิทยา ให้ดึงดูดความสนใจและสนองความต้องการของผู้เรียน
3. การสร้างแรงจูงใจ และ/หรือแรงขับ
ทฤษฎีเครื่องหมาย
ทอลแมน กล่าวว่า การเรียนรู้เกิดจากการใช้เครื่องหมายเป็นตัวชี้ทางให้แสดงพฤติกรรมไปสู่จุดหมายปลายทาง
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. ในการเรียนรู้ต่างๆ ผู้เรียนจะมีการคาดหวังรางวัล หากรางวัลไม่ตรงตามความพอใจผู้เรียนจะแสวงหารางวัลต่อไป
2. ขณะที่ผู้เรียนพยายามจะ ไปถึงจุดหมาย ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้เครื่องหมาย สัญลักษณ์ สถานที่ และสิ่งอื่นๆ
3. ผู้เรียนมีความสามารถในการปรับการเรียนรู้ของตนไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จะไม่กระทำซ้ำๆ
4. การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้นบางครั้งจะไม่แสดงออกทันที จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
หลักการจัดการศึกษาการสอน
1. การสร้างแรงขับ หรือแรงจูงใจ
2. การเรียนการสอนให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายใดๆ นั้น ครูควรให้เครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือสิ่งอื่น ควบคู่ไปด้วย
3. การปรับเปลี่ยนสถานการณ์ในการเรียนรู้
4. การเรียนรู้บางอย่างอาจไม่สามารถแสดงออกได้ทันที ควรใช้วิธีการทดสอบหลายๆ วิธี ทดสอบบ่อยๆ
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา
เพียเจต์ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอน กระบวนการอย่างไร เขาอธิบายว่าการเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตาพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งมีพัฒนาการเป็นไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่เร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้นดังนี้
- การรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส ช่วงอายุ 0-2 ปี
- ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด ช่วงอายุ 2-7 ปี
+ ขั้นก่อนเกิดความคิดรวบยอด อายุ 2-4 ปี
+ ขั้นการคิดด้วยความเข้าใจตนเอง อายุ 4-7 ปี
- ขั้นการคิดแบบรูปธรรม อายุ 7-11 ปี
- ขั้นการคิดแบบนามธรรม อายุ 11-15 ปี
2. ภาษาและกระบวนการคิดของเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่
3. กระบวนการทางสติปัญญามีดังนี้
- การซึมซับการดูดซึม
- การปรับและการจัดระบบ
- การเกิดความสมดุล
หลักการจัดการศึกษา
1. ในการพัฒนาเด็ก ควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก และจัดประสบการณ์เหมาะสมกับพัฒนาการ
- การสภาพแวดล้อมที่เอื้อไห้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามวัยของตน
- ไม่เปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา
- ในการสอนควรใช้สิ่งที่เป็นรูปธรรม
2.การให้ความสนใจและสังเกตเด็กอย่างใกล้ชิด
3. ในการสอนเด็กเล็กๆ นั้นเด็กจะรับรู้ส่วนรวม ได้ดีกว่าส่วนย่อย
4. ในการสอนสิ่งใดหับเด็กควรเริ่มจากสิ่งที่เด็กคุ้นเคยหรือ มีประสบการณ์มาก่อนแล้วจึงเสนอสิ่งใหม่ที่สัมพันธ์กับสิ่งเก่า
5. การเปิดโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์
บรุนเนอร์ เชื่อว่ามนุษยะรับรู้สิ่งที่ตนเอสนใจ และการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตนเอง
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. จัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก
2. การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน
3. การคิดแบบหยั่งรู้ เป็นการคิดหาเหตุผล
4. แรงจูงใจภายใน
5. ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้ 3 ขั้น
- ขั้นการเรียนรู้จาการกระทำ
- ขั้นการเรียนรู้จากความคิด
- ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม
6. การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด ได้อย่างเหมาะสม
7. การเรียนรู้ได้ผลดีที่สุด คือ ผู้เรียนค้นพบการเรียนรูด้วยตนเอง
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. กระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
2. การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนให้เหมาะสม
3. การจัดหลักสูตรแบบเกลียว
4. ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระ
5. การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
6. การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน
7. การสอนความคิดรวบยอดให้แก่ผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญ
8. การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มมนุษยนิยม
ให้ความสำคัญของความเป็นมนุษย์ และมองมนุษย์ว่ามีคุณค่า มีความดีงาม มีความสามารถ มีความต้องการและแรงจูงใจภายในที่จะพัฒนาศักยภาพของตน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของมาสโลว์
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. มนุษย์ทุกคนมีความต้องการพื้นฐานตามธรรมชาติเป็นลำดับขั้น
2. มนุษย์มีความต้องการที่จะรู้จักตนเองและพัฒนาตนเองประสบการณ์ที่ว่า peak experience เป็นประสบการณ์ของบุคคลที่อยู่ในภาวะดื่มด่ำ จากการรู้จักตนเองตามสภาพความเป็นจริง
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.การเข้าใจถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ สามารถช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของบุคคลได้
2. การที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานเขาเสียก่อน
3. ครูสามารถใช้ความต้องการพื้นฐานของผู้เรียนนั้นเป็นแรงจูงใจ ช่วยให้ผูเรียนเกิดการเรียนรู้ได้
4. การช่วยให้ผู้เรียนได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตนอย่างพอเพียง การให้อิสรภาพและเสรีภาพแก่ผู้เรียนในการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้ของรอเจอร์ส
ทฤษฎีการเรียนรู้
มนุษย์จะสามารถพัฒนาตนเองได้ดีหากอยู่ในสภาพการณ์ที่ผ่อนคลายและเป็นอิสระ การจัดบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการเรียนรู้ เน้นกระบวนการเรียนรู้และผู้เรียนเป็นสำคัญ
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. จัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้อบอุ่น
2. ครูควรชี้แนะ โดยให้ผู้เรียนเป็นผู้นำทางในการเรียนรู้
3. การเรียนการสอนเน้นการเรียนรู้กระบวนการเป็นสำคัญ
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของโคมส์
แนวคิดกับการเรียนรู้
ความรู้สึกของผู้เรียนมีความสำคัญต่อการเรียนมาก เพราะความรู้สึกและเจตคติของผู้เรียนมีอิทธิพลต่อกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
การคำนึงถึงถึงความรู้สึกของผู้เรียน การสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้ผูเรียนเกิดการเรียนรู้
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของโนลส์
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้
1. ผู้เรียนจะเรียนรู้ได้มากหากมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
2. การเรียนของมนุษย์เป็นกระบวนการภายใน อยู่ในความควบคุมของผู้เรียนแต่ละคน
3. มนุษย์จะเรียนรู้ได้ดีหากมีอิสระที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ตนต้องการ
4. มนุษย์ทุกคนมีลักษณะเฉพาะตน ความเป็นเอกัตบุคคลเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
5. มนุษย์เป็นผู้มีความสามารถและเสรีที่ตัดสินใจ และเลือกกระทำสิ่งต่างๆ ตามที่ตนพอใจ
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียน
2. ในกระบวนการเรียนรู้ ควรเปิดโอกาสและส่งเสริมให้ผู้เรียน นำประสบการณ์ ความรู้ ทักษะ เจตคติและค่านิยมต่างๆ ของตน เข้ามาใช้ในการทำความเข้าใจสิ่งใหม่ ประสบการณ์ใหม่
3. ควรเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนได้เลือกสิ่งที่เรียนและวิธีเรียนด้วยตนเอง
4. ในกระบวนการเรียนการสอน ครูควรเข้าใจและส่งเสริมความแตกต่างระหว่างบุคคล
5. ควรเปิดโอกาสและส่งเสริมให้ผู้เรียน ตัดสินใจด้วยตนเอง ลงมือกระทำ และยอมรับผลของการตัดสินใจหรือการกระทำนั้น
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของแฟร์
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้
เปาโล แฟร์ เชื่อในทฤษฎีของการถูกกดขี่ เขากล่าวว่า ผู้เรียนต้องถูกปลดปล่อยจากการกดขี่ของครูที่สอนแบบเก่า ผู้เรียนมีศักยภาพและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่จะกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
ควรเป็นระบบที่ให้อิสรภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียน
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของอิลลิช
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้
อิวาน อิลลิช ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการล้มเลิกระบบโรงเรียน การศึกษาควรเป็นการศึกษาตลอดชีวิต
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
การจัดการศึกษาไม่จำเป็นต้องจัดทำในลักษณะของระบบโรงเรียน ควรจัดในลักษณะที่เป็นการศึกษาต่อเนื่องไปตลอดชีวิตไปตามธรรมชาติ
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของนีล
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้
นีล กล่าวว่ามนุษยเป็นผู้มีศักดิ์ศรี มีความดีโดยธรรมชาติ
หลักการจัดการศึกษา/dkilvo
การให้เสรีภาพอย่างสมบูรณ์แก่ผู้เรียนในการเรียน เรียนเมื่อพร้อมที่จะเรียน จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาไปตามธรรมชาติ
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสาน
กานเย เขาอาศัยทฤษฎีและหลักการที่หลากหลาย เนื่องจากความรู้มีหลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทที่ซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง
ทฤษฎีการเรียนรู้ของกานเย
ทฤษฎีการเรียนรู้
1. กานเย ได้จัดประเภทของการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นง่ายไปหายากไว้ 8 ประเภท ดังนี้
1.1 การเรียนรู้สัญญาณ
1.2การเรียนรู้สิ่งเร้า-การตอบสนอง
1.3 การเรียนรู้เชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง
1.4 การเชื่อมโยงทางภาษา
1.5 การเรียนรู้ความแตกต่าง
1.6 การเรียนรู้ความคิดรวบยอด
1.7 การเรียนรู้กฎ
1.8 การเรียนรู้การแก้ปัญหา
2. กานเยได้แบ่งสมรรถภาพการเรียนรู้ของมนุษย์ไว้ 5 ประการ
2.1 สมรรถภาพในการเรียนรู้ข้อเท็จจริง
2.2 ทักษะเชาว์ปัญญา
2.3 ยุทธศาสตร์ในการคิด
2.4 ทักษะการเคลื่อนไหว
2.5 เจตคติ
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. กานเย ได้เสนอรูปแบบการสอนอย่างเป็นระบบโดยพยายาม เชื่อมโยงการจัดสภาพการเรียนการสอนอันเป็นสภาวะภายนอกตัวผู้เรียนให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ภายใน
2. ในระบบการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้นั้น กานเย่ได้เสนอระบบการสอน 9 ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ
ขั้นที่ 2 แจ้งจุดจุดประสงค์
ขั้นที่ 3 กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น
ขั้นที่ 4 เสนอบทเรียนใหม่
ขั้นที่ 5 ให้แนวทางการเรียนรู้
ขั้นที่ 6 ให้ลงมือปฏิบัติ
ขั้นที่ 7 ให้ข้อมูลป้อนกลับ
ขั้นที่ 8 ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์
ขั้นที่ 9 ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนความรู้
สรุป
แม้ว่าในแต่ละช่วงแต่ละสมัยจะมีทฤษฎี และแนวคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแนวคิดเก่าๆ ก็มิได้สูญสิ้นไปโดนสิ้นเชิง ทฤษฎีแต่ละทฤษฎีต่างก็มีจุดเด่นและจุดอ่อนในตัวเอง ดังนั้นจึงเกิดมีนักจิตวิทยาและนักการศึกษาที่เริ่มการผสมผสานแนวคิดหลายแนวเข้าด้วยกัน ดังตัวอย่างการผสมผสานระหว่างแนวคิดทางด้านพฤติกรรมนิยม และปัญญานิยมของกานเย เป็นต้น ดังนั้นข้อมูลในบทนี้จึงช่วยให้ผู้ศึกษาได้มองเห็นวิวัฒนาการของทฤษฎีการเรียนรู้ทางซีกโลกตะวันตก ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละ ช่วงจะมีการพัฒนาในลักษณะเติมเต็มในสิ่งที่ยังบกพร่องหรือส่วนที่ยังขาดอยู่ จนกระทั่งทำให้ได้ข้อความรู้ที่สมบูรณ์ขึ้น ทฤษฎีการเรียนรู้นับเป็นรากฐานที่มาของกลักการในการสอน โดยการสอนได้นำข้อความรู้จากทฤษฎีการเรียนรู้มาประยุกต์ใช้ทฤษฏีการเรียนรู้บางทฤษฎีกล่าวเฉพาะทฤษฎีการเรียนรู้ โดยไม่ได้กล่าวถึงการสอน แต่ทฤษฎีการเรียนรู้บางทฤษฎีได้ประยุกต์ความรู้สู่การสอนให้ด้วย ดังนั้นทฤษฎีการเรียนรู้ที่กล่าวถึงการสอน หรือกล่าวถึงแต่ไม่ชัดเจน ผู้เขียนจึงได้ทำหน้าที่ประยุกต์ข้อความรู้ไปสู่การสอนให้ด้วย